ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประเพณีกวนอาซูรอ



จัดขึ้นในช่วงเวลา ตรงกับวันที่ ๑๐ เดือนมุฮัรรอม ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีของศาสนาอิสลาม (ประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี) ความเป็นมาของการกวนข้าวอาซูรอ หรือกวนขนมอาซูรอสืบเนื่องจากได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในสมัยนบีนุฮ (อล) ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ไร่นาของประชาชนและสาวกของนบีนุฮ (อล) และคนทั่วไปอดอาหาร นบีนุฮ (อล) จึงประกาศให้ผู้ที่มีสิ่งของเหลือพอจะรับประทานได้ ให้เอามากองรวมกัน และให้เอาของเหล่านั้นมากวนเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกคนได้รับประทานอาหารกันโดยทั่วหน้า ความสำคัญ การกวนข้าวอาซูรอ (ขนมอาซูรอ) เป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 




           คำว่า อาซูรอ เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า การผสม การรวมกัน คือการนำสิ่งของที่รับประทานได้หลายสิ่งหลายอย่างมากวนรวมกัน มีทั้งชนิดคาวและหวาน การกวนข้าวอาซูรอจะใช้คนในหมู่บ้านมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อความสามัคคีและสร้างความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันมีผลต่อการอยู่ร่วมกันของสังคมอย่างมีความสุข ก่อนจะแจกจ่ายให้รับประทานกัน เจ้าภาพจะเชิญบุคคลที่นับถือของชุมชนขึ้นมากล่าวขอพร (ดูอา) ก่อน จึงจะแจกให้คนทั่วไปรับประทานกัน 



           
               พิธีกรรม การกวนข้าวอาซูรอเริ่มด้วยการที่เจ้าภาพประกาศเชิญชวนนัดหมายให้ชาวบ้านทราบว่าจะมีการกวนข้าวอาซูรอกันที่ไหน เมื่อใด เมื่อถึงกำหนดนัดหมายชาวบ้านก็จะนำอาหารดิบ เช่น เผือกมัน ฟักทอง มะละกอ กล้วย ข้าวสาร ถั่ว เป็นต้น มารวมเข้าด้วยกันแล้วปอกหั่น ตัดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นนำเครื่องปรุง เช่น ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ผักชี ยี่หร่า เกลือ น้ำตาล กะทิ เป็นต้น มาเป็นเครื่องผสมโดยหั่นตัดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่นเดียวกัน สำหรับกะทิจะคั้นเฉพาะน้ำมาผสม วิธีกวน นำกะทะใบใหญ่ตั้งไฟ มีไม้พายสำหรับคนขนมอาซูรอ หลังจากตั้งกะทะบนเตา คั้นน้ำกะทิใส่ลงไป ตำหรือบดเครื่องแกงหยาบ ๆ ใส่ลงในน้ำกะทิ เมื่อกะทิเดือดใส่อาหารดิบต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว คนด้วยไม้พายจนกระทั่งทุกอย่างเปื่อยยุ่ย กวนต่อไปจนเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อแห้งได้ที่แล้วตักใส่ถาด โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นบาง ๆ หรืออาจโรยหน้ากุ้ง เนื้อสมัน ปลาสมัน ผักชี หอมหั่นฝอย แล้วแต่รสนิยมของท้องถิ่น แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ แจกจ่ายกันรับประทาน หมายเหตุ : เนื้อสมัน ปลาสมัน คือ ปลา หรือเนื้อวัว ที่ต้มเคี่ยวด้วยเครื่องแกงจนแห้ง ใช้ทัพพีขยี้จนเนื้อเหล่านั้นเป็นผงฝอย แล้วนำไปโรยหน้าขนมอาซูรอ ถ้าเป็นชนิดหวานมีส่วนผสมเหมือนอาซูรอชนิดคาว แต่งใส่เครื่องเทศ และอาหารจำพวกเนื้อ เพิ่มน้ำตาลให้มากขึ้นและไม่ต้องโรยหน้า

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว

มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี



 
108 เส้นทางออมบุญ
ศาสนสถานสำคัญในเมืองไทย (ศาสนาอิสลาม)
มัสยิดกลางปัตตานี  ปัตตานี
โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย



มัสยิดกลางปัตตานี  ปัตตานี


            มัสยิดกลางปัตตานีนับเป็นมัสยิดที่สวยงาม และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  เป็นศูนย์รวมจิตใจ และศรัทธาและเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของผู้นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย  มัสยิดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาว่าได้สร้างขึ้นในปี  พ.ศ.2497  เนื่องจากรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของศาสนาอิสลามซึ่งเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวปัตตานีส่วนใหญ่นับถืออย่างเคร่งครัด  รวมทั้งมีชาวมุสลิมจำนวนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่สี่จังหวัดภาคใต้  จึงเห็นสมควรให้จัดสร้างมัสยิดขนาดใหญ่  ไว้เพื่อเป็นศูนย์กลางแก่ชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศ

            มัสยิดแห่งนี้ได้ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่  25  พฤษภาคม  พ.ศ.2506  ในสมัยที่จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์  ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  สถาปัตยกรรมของมัสยิดกลางนั้น  เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น  ที่มีรูปทรงดูคล้ายกับทัชมาฮาลของอินเดียผสมกับวิหารแบบตะวันตก  มีอาคารยอดโดมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและมีโดมบริวารทั้ง  4  ทิศ  มีหอคอยอยู่สองข้างสูงเด่น  ซึ่งเดิมใช้เป็นหอกลางสำหรับตีส่งสัญญาณเรียกให้ชาวมุสลิมมาร่วมปฏิบัติศาสนกิจ  แต่ปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งลำโพงเครื่องขยายเสียงแทน  ภายในมัสยิดมีลักษณะเป็นห้องโถงมีระเบียงสองข้าง  ภายในห้องโถงด้านใน  มีบัลลังก์ทรงสูงและแคบเป็นที่สำหรับ คอฏีบ ยืนอ่านคุฏบะฮ์การละหมาดในวันศุกร์

            ในปัจจุบันมัสยิดกลางปัตตานีได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจสำคัญ  คือการละหมาดวันละ 5 เวลา  เป็นกิจวัตรประจำวัน  และใช้ในการละหมดในวันศุกร์รวมถึงการละหมาดในวันตรุษต่างๆ  ซึ่งมีชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ปัตตานีรวมถึงชาวมุสลิมที่มาจากพื้นที่อื่นทั้งในและต่างประเทศมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะในวันศุกร์และวันเสาร์  จะมีการบรรยายธรรมะซึ่งมีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 3,000 คน  อันเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในหลักการของศาสนา  และเพื่อความถูกต้องในการบำเพ็ญศาสนกิจเป็นประจำทุกสัปดาห์

สถานที่ตั้ง

            ถ.ยะรัง  ต.อาเนาะรู   อ.เมือง  จ.ปัตตานี

วันและเวลาเปิด ปิด

            เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา  09.00 -15.30  น. ยกเว้นวันศุกร์ซึ่งเป็นวันประกอบศาสนกิจละหมาดประจำสับดาห์

            สอบถามเพิ่มเติม   โทร 0 7333 2402

แนะนำตัวเอง










นางสาวรุสมินี  ลีเดร์
รหัสประจำตัวนักศึกษา 52102311016
รุ่นที่ 1  ห้องที่ 1
หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชาชีพครู
สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา